ข้อผิดพลาด EOS-ERR-1603

ข้อผิดพลาด EOS-ERR-1603

หากคุณได้รับข้อความข้อผิดพลาดนี้ คุณอาจพบหน้าต่างแจ้งเตือนให้ติดตั้ง Microsoft .NET Framework 3.5 โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดนี้:

  1. หากคุณเห็นหน้าต่างแจ้งเตือนให้ติดตั้ง .NET Framework 3.5 ให้คลิก Download and install this feature (ดาวน์โหลดและติดตั้งฟีเจอร์นี้)
  2. หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว ให้คลิก Close (ปิด)
  3. คุณจะเห็นข้อความข้อผิดพลาดเกิดขึ้นอีกครั้ง ให้ปิดข้อความข้อผิดพลาด และเริ่มการติดตั้ง Epic Online Services นี่จะช่วยให้การติดตั้งเสร็จสมบูรณ์

หากไม่ได้ผล กรุณาลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. ตรวจสอบว่ามีโฟลเดอร์ Epic Online Services ในโฟลเดอร์ Epic Games ของคุณ (C:\Program Files (x86)\Epic Games)
    • หากคุณไม่เห็นโฟลเดอร์นี้ ให้สร้างโฟลเดอร์ใหม่ชื่อว่า Epic Online Services
    • ไปยังขั้นตอนถัดไป
  2. เปิด Epic Games Launcher ในฐานะผู้ดูแลระบบ
    • คลิกขวาที่ Epic Games Launcher และเลือก Run as administrator (เปิดโหมดดูแลระบบ)
    • หากขึ้นการควบคุมบัญชีผู้ใช้ (UAC) ให้กด Yes (ใช่)
    • ลองติดตั้งองค์ประกอบที่จำเป็นอีกครั้ง
    • หากไม่ได้ผล กรุณาทำตามขั้นตอนถัดไป
  3. อนุญาตการเข้าถึงการเขียน และอ่านแก่ Epic Games Launcher
    • พิมพ์ว่า Epic Games ในช่องค้นหา Windows
    • คลิกขวาและเลือก Open file location (เปิดตำแหน่งไฟล์)
    • คลิกขวาที่ Epic Games Launcher แล้วเลือก Properties (คุณสมบัติ)
    • เลือกแท็บ Security (ความปลอดภัย)
    • เลือกชื่อผู้ใช้จากรายการ
    • คลิกที่ Edit (แก้ไข)
    • เลือกชื่อผู้ใช้ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเข้าถึงการ อ่านและ เขียนได้รับการตั้งค่าเป็น Allow (อนุญาตแล้ว)
    • คลิก Apply (ใช้งาน)และ OK (ตกลง)
    • หากไม่ได้ผล กรุณาทำตามขั้นตอนถัดไป
  4. ปิด Windows Installer
    • กด Ctrl + Shift + Esc บนแป้นพิมพ์เพื่อเปิดไฟล์ Task Manager
    • เลือกแท็บ Details (รายละเอียด)
    • เลื่อนลงเพื่อหา msiexec.exe
    • ไฮไลต์ที่ msiexec.exe แล้วเลือก End Task (ปิดโปรแกรม)
    • หากไม่ได้ผล กรุณาทำตามขั้นตอนถัดไป
  5. เรียกใช้การติดตั้ง และถอนการติดตั้งตัวแก้ไขปัญหาจาก Microsoft
    • เข้าชมเว็บไซต์ทางการของ Microsoft (เปิดในแท็บใหม่) เพื่อหาตัวแก้ไขปัญหา
    • คลิก Download troubleshooter (ดาวน์โหลดตัวแก้ไขปัญหา)
    • เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ MicrosoftProgram_Install_and_Uninstall.meta.diagcap
    • เมื่อเปิดแล้ว คลิกที่ตัวเลือกการติดตั้ง
    • หากไม่ได้ผล กรุณาทำตามขั้นตอนถัดไป
  6. ดำเนินการอัปเดต Windows ทั้งหมด
    • พิมพ์ Updates ในช่องค้นหา และกด Enter
    • ในหน้าต่างใหม่ ให้คลิก Check for updates (ตรวจสอบการอัปเดต)
    • อัปเดตการติดตั้งทุกอย่างที่มีให้
    • รีบูต ระบบของคุณ
    • หากไม่ได้ผล กรุณาทำตามขั้นตอนถัดไป
  7. สร้างโฟลเดอร์ Epic Online Services ด้วยตนเองและติดตั้ง Epic Online Services ใหม่
    • กด Win + E เพื่อเปิด File Explorer
    • สร้างโฟลเดอร์/เส้นทางต่อไปนี้: C:\Program Files (x86)\Epic Games\Epic Online Services
    • ไปที่ตำแหน่งดังต่อไปนี้: [ตำแหน่งการติดตั้งของคุณ]Epic GamesLauncherPortalExtrasEOS 
    • ดับเบิลคลิกที่ EpicOnlineServicesInstaller.exe และติดตั้งเกมที่ตำแหน่งไฟล์ที่ได้สร้างไว้ก่อนหน้า
  8. ลองเปิดพอร์ต 80 ในไฟร์วอลล์และเราเตอร์ของคุณ
    • คลิกที่ Start (เริ่มต้น)
    • พิมพ์ Control Panel และกด Enter
    • คลิกระบบและความปลอดภัย (System and Security)
    • คลิก Windows Defender Firewall
    • คลิกการตั้งค่าขั้นสูง (Advanced Settings) จากนั้นคลิกกฎขาเข้า (Inbound Rules) ที่แผงด้านซ้าย
    • คลิกขวาที่ กฎขาเข้า (Inbound Rules) จากนั้นคลิกกฎใหม่ (New Rule)
    • เลือกพอร์ต (Port) จากนั้นคลิกถัดไป (Next)
    • เลือก TCP เป็นโปรโตคอลเพื่อใช้งานกฎ
    • เลือกพอร์ตในพื้นที่แบบเจาะจง (Specific Local Ports) เพิ่มพอร์ต 80 จากนั้นคลิกถัดไป (Next)
    • เลือกอนุญาตการเชื่อมต่อ (Allow the connection)
    • ปล่อยให้มีการทำเครื่องหมายไว้ที่กล่อง โดเมน (Domain), ส่วนตัว (Private) และสาธารณะ (Public) เพื่อใช้กฎกับเครือข่ายทุกประเภท
    • ตั้งชื่อกฎเพื่อให้สามารถเข้าใจได้ (เช่น Epic Games Launcher) จากนั้นคลิกเสร็จสิ้น (Finish)
      หมายเหตุ: ขั้นตอนด้านบนเป็นขั้นตอนสำหรับ Windows 10 ซึ่งอาจแตกต่างกันในเวอร์ชันอื่นๆ
    • หากไม่ได้ผล กรุณาทำตามขั้นตอนถัดไป
  9. หากขั้นตอนการแก้ไขปัญหาข้างต้นไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ โปรดติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Microsoft (เปิดในแท็บใหม่) รหัสข้อผิดพลาดเหล่านี้เกี่ยวข้องกับตัวติดตั้ง MSI ที่ใช้เมื่อทำการติดตั้ง Epic Online Services เนื่องจากโปรแกรมติดตั้ง MSI เป็นผลิตภัณฑ์ของ Microsoft ดังนั้น มีเพียง Microsoft เท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นในการแก้ไขปัญหานี้ได้